เยอร์เกน คลอปป์ สาดวาทะเด็ดใส่ ฟอเรสต์ หลังโวย ลิเวอร์พูล ได้ประโยชน์จากผู้ตัดสินก่อนได้ประตูชัย นำจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกต่อไป

วันที่ 3 มีนาคม 2567 เยอร์เกน คลอปป์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ให้สัมภาษณ์หลังเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งบุกไปเฉือนชนะ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ 1-0 ทำให้ “หงส์แดง” เก็บเพิ่มเป็น 63 คะแนนจาก 27 นัด รั้งจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกอีก 1 สัปดาห์แน่นอน โดยนำ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อันดับ 2 อยู่ 4 แต้ม ก่อนเตะกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คืนนี้ ส่วน ฟอเรสต์ มี 24 คะแนนเท่าเดิม อยู่อันดับ 17 ห่างโซนตกชั้นแค่ 4 แต้ม

เกมนี้มีจังหวะปัญหาก่อนได้ประตูชัย เมื่อ อิบราฮิมา โกนาเต กองหลังลิเวอร์พูลได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ในขณะที่ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ครองบอลเปิดเกมรุก ทำให้เกมต้องหยุดชั่วคราว แต่เมื่อผู้ตัดสินให้สัญญาณกลับมาเล่นต่อ กลับปล่อยบอลให้ ควีวิน เคลเลเฮอร์ ซึ่งผู้รักษาประตู “หงส์แดง” ก็จ่ายให้เพื่อนร่วมทีมเล่นต่อ โดยที่ “เจ้าป่า” ไม่ได้เป็นฝ่ายกลับมาครองบอล

จากนั้นประมาณ 1 นาที 50 วินาทีถัดมา ดาร์วิน นูนเญซ ก็มาโหม่งทำประตูชัยให้ ลิเวอร์พูล ได้สำเร็จในช่วงทดเจ็บ นาทีที่ 90+9 เป็นเหตุให้ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ไม่พอใจผู้ตัดสิน พอล เทียร์นีย์ ซึ่งทำให้ทีมเสียประโยชน์เต็มๆ จนถึงขั้น เอวานเกลอส มารินาคิส เจ้าของสโมสร “เจ้าป่า” ที่นั่งชมเกมอยู่ด้านบน เดินลงมาโวยถึงในสนาม

อย่างไรก็ตาม เยอร์เกน คลอปป์ ออกมาตอบโต้ ฟอเรสต์ ว่าเกมนี้ ลิเวอร์พูล ก็เสียประโยชน์จากการตัดสินเช่นกัน จากจังหวะบุกในครึ่งแรก ซึ่ง พอล เทียร์นีย์ บอกให้หยุดเกมในจังหวะบุกของ “หงส์แดง” หลังจาก ไรอัน เยตส์ กัปตันทีม “เจ้าป่า” โดน ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ยิงอัดจนจุก ล้มลงไปนอนกับพื้น แต่ผู้ตัดสินกลับให้ มัตซ์ เซลส์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ได้บอลเพื่อเริ่มเล่นใหม่

คลอปป์ พูดถึงปมปัญหาระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ ฟอเรสต์ ดังกล่าวว่า “มันเกิดขึ้นเหมือนกันทุกประการในครึ่งแรกใช่ไหม?  เหมือนกันเลย แค่คนละทีมกัน ผมยอมรับว่ามันจะเกิดขึ้นแบบนั้นเพราะมันเกิดขึ้นในครึ่งแรก ถ้าไม่เกิดในครึ่งแรกผมก็คงถามคำถามนี้เหมือนกัน”

“ผมจะถือว่านั่นคือกฎกติกา ผมไม่รู้ แต่เนื่องจากมันเกิดขึ้น 2 ครั้ง และได้รับการตัดสินเหมือนกันทุกประการ ผมจึงไม่เห็นเหตุผลของพวกเขาที่จะพูดคุยกันจริงๆ ผมเข้าใจ 100 เปอร์เซ็นต์ถึงความตื่นเต้นและความโกรธของ น็อตติงแฮม แน่นอนว่าพวกเขาต่อสู้เพื่อทุกสิ่งทุกอย่าง แต่มันก็เกิดขึ้นแบบเดียวกัน 2 ครั้ง”