เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เปิดศึกก่อนเกมกับ แมนฯ ซิตี้ ชี้ 3 สาเหตุ ลิเวอร์พูล จะทวงแชมป์พรีเมียร์ลีก
วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ แบ็กขวาตัวเก่งของ ลิเวอร์พูล ให้สัมภาษณ์ล่าสุดก่อนเกมบิ๊กแมตช์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่จะไปเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพื่อชิงตำแหน่งจ่าฝูงในวันเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายนนี้ แข่งขัน 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย
สถานการณ์ล่าสุด ลิเวอร์พูล รั้งอันดับ 2 พรีเมียร์ลีก มี 27 คะแนนจาก 12 นัด ตามหลัง แมนฯ ซิตี้ ที่แข่งเท่ากันเพียง 1 แต้ม ซึ่งหากบุกไปชนะได้สำเร็จก็จะแซงขึ้นไปเป็นจ่าฝูงทันที ทำให้ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ มั่นใจว่า “หงส์แดง” มีลุ้นทวงแชมป์จาก “เรือใบสีฟ้า” ในฤดูกาลนี้ หลังจากซีซั่นที่ผ่านมาจบแค่อันดับ 5 มีคะแนนห่างกันถึง 22 แต้ม
รองกัปตันทีมลิเวอร์พูล เผย 3 สาเหตุที่ทำให้เชื่อว่าจะสามารถแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีกจาก แมนฯ ซิตี้ ได้ว่า “เป้าหมายของเราในฐานะทีมคือการคว้าแชมป์ลีก และนั่นคือเป้าหมายอีกครั้งในฤดูกาลนี้ ซึ่งฤดูกาลที่แล้วเรายังไม่ดีพอ”
“เรามีผู้เล่นใหม่เข้ามาหลายคน มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการปรับตัวให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และทำให้แน่ใจว่าเราได้วางรากฐานที่ดีในช่วงเริ่มต้นฤดูกาล”
“เราอยู่ในตำแหน่งที่ดีและมีผลการแข่งขันที่แข็งแกร่งจริงๆ ซึ่งในแง่ของผลงานแล้ว เรากำลังทำได้ดีพอที่จะเข้าใกล้จ่าฝูงของตารางคะแนนให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แม้ลีกจะยังไม่จบ และยังมีอีกหลายเกมให้เล่น แต่จนถึงตอนนี้เราได้ทำผลงานในแบบที่คุณคาดหวังสำหรับใครที่สามารถคว้าแชมป์ได้ และถ้าเราทำสิ่งนี้ต่อไปจนถึงเดือนพฤษภาคม เราก็มีโอกาส”
“เมื่อมองไปรอบๆ ห้องแต่งตัว มองดูผู้เล่นที่เรามี ทีม สปิริต บรรยากาศภายในทีมแล้ว การลุ้นแชมป์ลีกเป็นสิ่งที่เรารู้สึกว่าทำได้ ถ้าเราไม่เชื่ออย่างนั้น ผมคงพูดว่า ‘ผมต้องการกลับไปติดท็อปโฟร์’ เพราะจริงๆ แล้วไม่มีอะไรผิดปกติกับทีมนี้”
“ทีมที่เพิ่งจบอันดับนอกพื้นที่ไป ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก มีการสร้างทีมใหม่ มีผู้เล่นใหม่และผู้เล่นอาวุโสจำนวนมากจากไป มันเป็นเรื่องปกติมากที่จะพูดว่า ‘กลับไปสู่ท็อปโฟร์และผลักดันต่อไปจากจุดนั้น’ แต่การลุ้นแชมป์ลีกเป็นสิ่งที่เราเชื่อว่าเราสามารถบรรลุเป้าหมายได้ นั่นคือเป้าหมายที่เรามองไว้ ถ้ามันไม่เกิดขึ้น เราก็ต้องตำหนิตัวเอง และเราจะมุ่งเน้นไปที่สิ่งนั้นถ้ามันเกิดขึ้นได้”
“สิ่งที่ยากที่สุดของฟุตบอลคือการชนะเกมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง แต่เราแสดงให้เห็นอีกครั้งในความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ในวันนี้ว่าเรามีดีเกินกว่าจะผ่านมันไปได้”